เทศกาลวันคริสต์มาส Christmas

ประวัติความเป็นมาเทศกาลวันคริสต์มาส Christmas

วันคริสต์มาส นั้นเป็นวันเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้ที่เป็นศาสดาของชาวคริสต์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งวันเฉลิมฉลองที่มีความสำคัญ และ มีความหมายมากวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่า พระเยซู มิได้เป็นแต่เพียงมนุษย์ธรรมดา ๆ ที่เกิดมาเหมือนกับเด็กทั่ว ๆ ไปแต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้า และ มีพระธรรมชาติเป็นพระเจ้า และ เป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การกำเนิดเกิดของพระองค์จึงเป็นเหตุการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนกับการเกิดใด ๆ และ ไม่มีใครเหมือน

ก่อนถึงวันคริสต์มาส ก็คือ คริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ซึ่งได้นับเป็นวันเริ่มแรกก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส หากดูจากฝั่งตะวันตกโดยทั่วไปก็จะตรงกับวันที่ 24 ธันวาคมของทุก ๆ ปีตามแบบระบบปฏิทินสมัยใหม่ โดยคริสต์มาอีฟ นั้นมีความหมาย คือ เย็นแรกของวันคริสต์มาส ในวันนั้นจะมีการเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึงการประสูติของพระเยซู

ประวัติวันคริสต์มาส Christmas วันคริสต์มาสมีการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่สำคัญจริงๆ โดยเฉพาะสำหรับชาวคริสต์ พร้อมด้วยเทศกาลอีสเตอร์ (ซึ่งเฉลิมฉลองการสิ้นพระชนม์ และ การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ) เทศกาลจุติเริ่มในวันอาทิตย์ประมาณสี่สัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาส ในช่วง Advent ผู้คนจะเตรียมตัวสำหรับคริสต์มาส เทศกาลคริสต์มาส (เรียกว่า Christmastide) สิ้นสุดในวันที่ 6 มกราคม หรือที่เรียกว่าวันที่สิบสองของคริสต์มาส ในวันนี้ชาวคริสต์เฉลิมฉลอง คริสต์มาสในหลายแห่งทั่วโลก บางคนฉลองคริสต์มาสเป็นวันหยุดทางศาสนา ในบางแห่ง คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับชาวคริสต์และผู้ที่ไม่ใช่ชาวคริสต์

ประเพณีคริสต์มาสแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม พวกเขามักจะรวมงานฉลอง ไว้ด้วย ; การให้ของขวัญหรือการ์ด และเพลิดเพลินกับโบสถ์หรืองานเฉลิมฉลองในที่สาธารณะ เช่น ร้องเพลงคริสต์มาสและเพลงต่างๆ คริสต์มาสไม่ได้จำกัดเฉพาะศาสนาคริสต์ แนวคิดเรื่องซานตาคลอสมีพื้นฐานมาจากนักบุญนิโคลัสนักบุญชาวกรีกใน คริสต์ศตวรรษที่ 4 ใน ซีก โลกเหนือ Christmastide จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ก่อนที่จะมีการเฉลิมฉลองคริสต์มาส ผู้คนในสมัยโบราณเฉลิมฉลองเทศกาลฤดู หนาว ประเพณีบางอย่างจากเทศกาลโบราณเหล่านี้กลายเป็นประเพณีคริสต์มาส ตัวอย่างเช่น ประเพณีคริสต์มาสบางอย่างมาจากวันหยุดนอก ศาสนาใน เทศกาล คริสต์มาส ทุกวันนี้ ประเพณีคริสต์มาสมักจะมุ่งเน้นไปที่การให้ของขวัญ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนวันคริสต์มาสร้านค้าปลีกเริ่มขายของขวัญ อาหารการ์ดอวยพรต้นคริสต์มาสคุกกี้น้ำตาลแคนดี้แคนและของประดับตกแต่ง

เทศกาลวันคริสต์มาส Christmas

ซึ่งในหลาย ๆ เมืองฉลองคริสต์มาสด้วยการตกแต่ง สิ่งเหล่านี้อาจเป็นป้าย และ ตอม่อที่พันจากอาคารหรือเสาไฟ อาจเป็นไฟคริสต์มาสซึ่งใช้ประดับอาคาร และ ต้นไม้ข้างถนนได้ด้วย เมืองใหญ่หลายแห่งตั้งต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ในที่สาธารณะ เช่น จัตุรัสทราฟัลการ์ในลอนดอน ไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก และ มาร์ตินเพลสในซิดนีย์ มักจะรวมกับการขอร้องให้ชาวเมืองให้เงินหรือของขวัญเพื่อช่วยเหลือคนยากจน และ คนขัดสน

ในหลาย ๆ เมือง ชั่วโมงการจับจ่ายซื้อของตามปกติจะนานขึ้นก่อนวันคริสต์มาส เพื่อให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการซื้ออาหาร และ ของขวัญวันคริสต์มาส หน้าต่างร้านค้ามักประดับประดาด้วยฉากคริสต์มาส โดยห้างใหญ่ ๆ มักมีฉากแอนิเมชั่นสร้างความบันเทิงให้กับเด็ก ๆ ห้างสรรพสินค้า และ ร้านค้าขนาดใหญ่มักจะมีซานตาคลอสนั่งอยู่บนบัลลังก์ ในขณะที่เด็ก ๆ บอกเขาว่าอยากได้อะไรในวันคริสต์มาสและถ่ายรูปให้

การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส

หลายเมืองจัดขบวนพาเหรดคริสต์มาส ความบันเทิงตามท้องถนน และ คอนเสิร์ต บางเมืองมีประเพณีของเพลงคริสต์มาสโดยมีคณะนักร้องประสานเสียงและผู้ให้ความบันเทิงในศาลากลาง ในขณะที่ในออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ คอนเสิร์ตเพื่อความบันเทิง และ เพลงคริสต์มาสเหล่านี้มักจะจัดขึ้นกลางแจ้ง ในสวนสาธารณะ หรือแม้แต่บนชายหาด โดยมีครอบครัวพากันมาปิกนิก การมาถึงของซานตาคลอสในตอนเย็นจะมีการแสดงดอกไม้ไฟ

ส่วนดั้งเดิมของคริสต์มาสคือความบันเทิงในโรงละคร ซึ่งรวมถึงการแสดงดนตรีคลาสสิก เช่น Handel’s Messiah ตลอดจนคอนเสิร์ตออเคสตร้าและการแสดงดนตรีของวงดนตรี ละครใบ้มักเล่นในช่วงคริสต์มาส และรายการโปรด ได้แก่ ” ปีเตอร์แพนกับเวนดี้ ” และ ” ซินเดอเรลล่า ” ภาพยนตร์สำหรับเด็กหลายเรื่องเข้าฉายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

เนื่องจากหลายคนรู้สึกเหงา หิวโหย และเศร้าใจในวันคริสต์มาส เมือง โบสถ์ องค์กรการกุศล และ องค์กรบริการหลายแห่งพยายามช่วยเหลือคนยากจน และ โดดเดี่ยวด้วยการให้อาหารคริสต์มาส และ ของขวัญสำหรับครอบครัวที่ยากจน และ ปาร์ตี้คริสต์มาสสำหรับผู้ที่หิวโหยหรือกำลัง โดดเดี่ยว และ ไม่มีเพื่อนหรือครอบครัว

ครอบครัวส่วนใหญ่คิดว่าคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ผู้คนมักจะเดินทางจากที่ไกลเพื่อไปอยู่กับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ในวันคริสต์มาส

ซึ่งการให้ของขวัญในวันคริสต์มาสมีที่มาจากหลากหลายแนวคิด หนึ่งคือพระเจ้าได้ประทานพระบุตรของพระองค์ พระเยซู ให้กับโลกในวันคริสต์มาส นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของนักปราชญ์ที่มาหาพระกุมารเยซูพร้อมกับของกำนัลสามอย่าง ทองคำ กำยาน และ มดยอบ เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ผู้คนนิยมให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันคริสต์มาส และ เผื่อแผ่แก่คนจน และ คนขัดสนเพื่อช่วยเหลือพวกเขาตลอดฤดูหนาว ประเพณีอื่นได้เชื่อมโยงกับประเพณีนี้ และ ผลที่ตามมาคือประเพณีของซานตาคลอสหรือที่เรียกว่า Father Christmas ซึ่งบางครั้งเด็ก ๆ หลายคนคิดว่าเป็นผู้นำของขวัญ และ ความสุขมาให้